เอเอฟพี - แม่น้ำโขง แม่น้ำสายใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนหลายสิบล้านชีวิตกำลังถูกคุกคามจากเขื่อนจีน ที่ย้ำให้เห็นถึงการควบคุมทางกายภาพของปักกิ่งเหนือเพื่อนบ้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชาวประมงกัมพูชา อายุ 32 ปี จากชุมชนมุสลิมชาวจามที่อาศัยอยู่บนเรือที่ล่องไปตามแนวแม่น้ำใน จ.กันดาล ระบุว่า ปลาที่เขาหาได้ในแต่ละวันนั้นลดจำนวนลงทุกปี
“เราไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ปลาถึงมีน้อยลง” ชายชาวเขมร กล่าว
เรื่องราวน่าเศร้าจากหมู่บ้านที่อยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำซึ่งคดเคี้ยวมาจากที่ราบสูงทิเบต ผ่านพม่า ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม ก่อนไหลลงสู่ทะเลจีนใต้
ด้วยความยาวเกือบ 4,800 กิโลเมตร แม่น้ำโขงเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นรองเพียงแค่แม่น้ำอเมซอนสำหรับความหลากหลายทางชีวภาพ โดยแม่น้ำโขงสายนี้ได้หล่อเลี้ยงประชากรราว 60 ล้านคนทั่วทั้งลุ่มน้ำ
แม้การไหลของแม่น้ำโขงจะยังไม่ถูกควบคุมจากพื้นที่ต้นน้ำในจีนก็ตาม แต่ในการเยือนกรุงพนมเปญ ของนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำระดับภูมิภาคในวันพุธนี้ (10) อาจกำหนดอนาคตของแม่น้ำสายนี้ก็เป็นได้
รายงานขององค์กรแม่น้ำนานาชาติ ระบุว่า ปักกิ่งสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงส่วนบนแล้ว 6 แห่ง และกำลังลงทุนในโครงการเขื่อนอีกมากกว่า 6 แห่ง จากที่วางแผนไว้ 11 แห่ง ในพื้นที่ตอนใต้
กลุ่มสิ่งแวดล้อมเตือนว่า การกีดขวางลำน้ำอาจเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อแหล่งที่อยู่อาศัยของปลา รบกวนการอพยพของปลา และการไหลของสารอาหาร และตะกอนสำคัญต่างๆ
ชุมชนต่างๆ ในประเทศลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง รายงานว่า ปริมาณปลาลดลงในช่วงหลายปีมานี้ และกล่าวโทษว่า เขื่อนเป็นสาเหตุ แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปเนื่องจากยังขาดข้อมูลพื้นฐาน และธรรมชาติที่ซับซ้อนของระบบนิเวศแม่น้ำ
แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นด้วยคือ ว่า จีนนั้นมีอำนาจเหนือทรัพยากรนี้ ที่เป็นสายเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจของบรรดาคนยากจนที่อยู่ทางตอนใต้ของลำน้ำ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศ ระบุว่า ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่างไม่สามารถโต้แย้งจีน เป็นผลให้ปักกิ่งยังสามารถทำลายแหล่งที่อยู่อาศัย และวิถีชีวิตของประชาชนหลายล้านที่อยู่ตามแนวแม่น้ำ และจากการควบคุมต้นน้ำ ปักกิ่ง จึงยังสามารถสร้างเขื่อนบนส่วนต่างๆ ของแม่น้ำ ขณะที่ผลกระทบตกอยู่กับปลายน้ำ
นอกจากนั้น จีนยังสามารถปรับเปลี่ยนระดับน้ำได้ ที่นับเป็นเครื่องมือต่อรองที่มีอิทธิพลอย่างมากในปี 2559 เมื่อจีนเปิดประตูเขื่อนเพื่อช่วยเวียดนามบรรเทาความแห้งแล้งรุนแรงในปีนั้น
อำนาจมหาศาลในระดับภูมิภาคกำลังถูกยืนยันอีกครั้งผ่านเวทีการประชุมกรอบความร่วมมือแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง (LMC) และในขณะเดียวกัน จีนก็เอาใจเพื่อนบ้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการลงทุน และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
ในสัปดาห์นี้ ผู้นำจากทั้ง 6 ชาติในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงจะเข้าร่วมการประชุมกรอบความร่วมมือแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง (LMC) ที่กัมพูชา
กระทรวงการต่างประเทศของจีนกำกับดูแลหัวข้อการประชุม ที่ยังครอบคลุมไปถึงประเด็นการค้าและความมั่นคง เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางสังคม และสภาพแวดล้อมที่สวยงาม
แต่นักสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การประชุม LMC มุ่งหมายที่จะแทนที่คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) คณะทำงานในระดับภูมิภาคที่พยายามจะจัดการการพัฒนาตามแนวแม่น้ำโขง ซึ่งไม่มีประเทศจีนเข้าร่วม
มัวรีน แฮร์ริส ผู้อำนวยการโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขององค์กรแม่น้ำระหว่างประเทศ กล่าวว่า รู้สึกวิตกกังวลว่าบทบาทผู้นำของจีน และอิทธิพลจะทำให้จีนให้ความสำคัญต่อผลประโยชน์ของตัวเองเหนือกว่าความร่วมมือที่มีความสำคัญ
บริษัทต่างๆ ของจีนกำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในโครงการเขื่อนหลายแห่ง แต่จนถึงเวลานี้โครงการต่างๆ ยังไม่สามารถดำเนินการประเมินผลกระทบทางสังคม และสิ่งแวดล้อมให้เสร็จสมบูรณ์
การเรียกร้องการปกป้องคุ้มครองแม่น้ำมักถูกมองข้าม ด้วยรัฐบาลต่างๆ พยายามที่จะตอบสนองความต้องการด้านพลังงาน และไม่ต้องการที่จะโต้แย้งจีน หรือต่อต้านเงินลงทุนของจีน.